หลังจากที่ฉันหายไปนานก็ต้องขออภัยด้วยกับความไม่สะดวกของเวลา หลังจากนี้ไปก็จะพูดถึงประสบการณ์หลาย ๆ อย่างที่ได้ประสบพบเจอมา บางเรื่องก็น่ากลัวจนทำให้ขนหัวของคุณลุกได้ แต่บางเรื่องอาจจะทำให้ผีที่พวกคุณเคยกลัวกลายเป็นเรื่องตลกไปเลยหล่ะ
วันอาทิตย์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2555
ประสบการณ์ขนหัวลุก
สวัสดีท่านผู้อ่านทุกคนน่ะค่ะ
หลังจากที่ฉันหายไปนานก็ต้องขออภัยด้วยกับความไม่สะดวกของเวลา หลังจากนี้ไปก็จะพูดถึงประสบการณ์หลาย ๆ อย่างที่ได้ประสบพบเจอมา บางเรื่องก็น่ากลัวจนทำให้ขนหัวของคุณลุกได้ แต่บางเรื่องอาจจะทำให้ผีที่พวกคุณเคยกลัวกลายเป็นเรื่องตลกไปเลยหล่ะ
หลังจากที่ฉันหายไปนานก็ต้องขออภัยด้วยกับความไม่สะดวกของเวลา หลังจากนี้ไปก็จะพูดถึงประสบการณ์หลาย ๆ อย่างที่ได้ประสบพบเจอมา บางเรื่องก็น่ากลัวจนทำให้ขนหัวของคุณลุกได้ แต่บางเรื่องอาจจะทำให้ผีที่พวกคุณเคยกลัวกลายเป็นเรื่องตลกไปเลยหล่ะ
วันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
ต่อจาก เมื่อวานค่ะ
ต่อจาก เมื่อวานค่ะ
1.คุณเป็นคนที่มีเมตตาพอที่จะอุทิศบุญกุศลไปให้เค้าได้
2.คุณมีกรรมที่ผูกพันกับวิญญาณนั้น มาตั้งแต่ชาติปางก่อนหรือในชาติปัจจุบัน
3.คุณไปท้าทายหรือลบหลู่เค้า
4.ข้อสุดท้ายนี้ เค้าเรียกว่าถึงคราวซวยของคุณที่ไม่ตั้งใจอยากเห็นแต่ก็ดันเห็น (555)
สาเหตุที่ทำให้คนเรามองเห็นผีก็มีเท่านี้แหล่ะ สำหรับสาเหตุที่ฉันมองเห็นก็มาจาก 4 ข้อนี้แหล่ะ แล้วคุณผู้อ่านที่เคยพบเจอวิญญาณหล่ะ คิดว่าน่าจะเป็นขอไหนที่เป็นสาเหตุที่ทำให้คุณมองเห็นผี พอฉันเริ่มจะเข้าใจและประติดประต่อเรื่องราวได้ สิ่งต่อไปที่อาสอนให้คือ การอุทิศส่วนบุญให้กับพวกผีๆทั้งหลายเพื่อให้เค้าได้รับ และจะได้ไม่มายุ่งเกี่ยวกับเราอีก จริงๆแล้วพวกผีเหล่านี้อาจจะไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด แต่เพราะโลกของเรานั้นชอบจิตนาการ จึงทำให้ผีถูกนำมาพูดในทางที่หน้ากลัว อาของฉันบอกว่าคนที่เห็นผีไม่จำเป็นว่าจะมีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้นกับเราเสมอไป เพราะการที่เราได้พบได้เห็นสิ่งเหล่านั้นเป็นเพราะพวกผีทั้งหลายต้องการให้เราช่วย แผ่ส่วนบุญของเราให้เค้า เค้าจะได้ไปเกิดในที่ ที่สมควรไป เอาหล่ะเรา
มาดูวิธีการอุทิศบุญและเอาชนะความกลัวกันกันเถอะ
1.เมื่อคุณเจอผีไม่ว่าที่ไหนก็ตาม สิ่งที่คุณไม่สมควรทำคือการวิ่ง เพราะมันจะทำให้คุณจับไข้หัวโกลน
ควรจะเดินออกมาจากสถานที่นั้นอย่างช้าๆ
2.หรือถ้าคุณก้าวขาไม่ออกก้ให้สวดบทแผ่ฃเมตตาซะ
3.เมื่อคุณกลับถึงบ้านให้เอาน้ำมนตร์ตบหัวสามครั้งแล้วก็นั่งลงสงบจิตสงบใจ แล้วจึงเข้านอน
4.ขอนี้สำหรับคนที่มีใจบุญจริงๆ รุ่งเช้าก็ให้ตักบาตรและกรวดน้ำอุทิศบุญ ให้เค้า
แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จพิธีแต่ แต่ก้ยังมีอีกคำถามหนึ่งที่ตอนนี้เราคิดว่าท่านผู้อ่านหลายคนต้องสงสัยแน่ว่า
"เป็นผี แต่ว่าเราไม่รู้จักกัน ไม่เคยเห็นหน้า ไม่รู้จักชื่อ แล้วจะอุทิศบุญยังไง" คำตอบ คืออุทิศไ้ด้ค่ะให้คุณอธิฐานว่า "บุญกุศลใดที่ข้าพเจ้าได้ทำมาตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันขาตินี้ก็ขออุทิศให้ สัมพเวสี ผีตายโหงทั้งหลาย หรือดวงวิญญาณที่ข้าพเจ้าได้พบได้เห็น ข้าพเจ้าขออุทิศให้ และขอให้ท่านมีแต่ความสุข" แค่นี้ก็สบายใจได้เลยพรุ่งนี้คุณจะไม่เจอผีตนเดิมอีกแต่อาจจะเจอตนใหม่ก็ได้น่ะค่ะ
ยังมีให้ติดตามต่ออีกเยอะน่ะค่ะ บายบาย
วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
จุดเริ่มต้น
จุดเริ่มต้น
สวัสดี เพื่อนๆ หรือว่าท่านผู้อ่านทุกท่าน น่ะค่ะ
ก่อนอื่่น ก็ขอแนะนำตัวหน่อยละกัน และก็ขอแทนตัวเองว่า "เรา" ด้วย เราชื่อเล่นว่าแจม ตอนนี้ก็อายุ 17 ขวบ แล้วเราเป็นคนที่มีสัมผัสที่ 6 ซึ่งนั้นก็หมายถึงการมองเห็นสิ่งที่ใครหลายคนมีความเชื่อกันว่า มันคือ "ผีหรือวิญญาณ" นั้นเอง ฉันเริ่มรู้ว่ามองเห็นสิ่งเหล่านี้ได้ตั้งแต่อายุประมาร 7 ขวบ สาเหตุที่รู้ก็เพราะได้ยินการเล่าจากประสบการณ์ของพวกพี่ ป้า น้า อา ทั้งหลายที่กลัวผีเค้าเล่าให้ฟัง จากที่พวกผู้ใหญ่ว่ากันว่าผีหน้าตาเน่าเละ บางก็ว่าใส่ชุดสีขาวบางก็ว่าใส่สีดำ ว่ากันว่าผีพวกนี้มาขอส่วนบุญหรือไม่ก็กำลังหาตัวตายตัวแทน ตั้งแต่นั้นมาเราก็กลัวผีมาก ที่แรกก็ยังไม่เข้าใจนักหรอกว่าผีคืออะไร แต่ก็กลัว บอกพ่อกับแม่เค้าก็ไม่เชื่อเราหาว่าเราคิดไปเองอยางโน้นอย่างนี้ ตั้งแต่นั้นมาถึงจะเห็นแต่ก็ไม่สนใจคิดว่าตัวเองต้องคิดไปเองแน่ๆเลย จนมาถึงตอนอายุ 13 ขวบ ก็ชักจะเห็นพวกผีเยาะขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ก็เลยนึกว่า "ฉันต้องเป็นโรคประสาทหลอนแน่ๆ ทำไม่มองอะไรเป็นเงาของคนไปหมด" อยู่มาวันหนึ่ง ไม่รู้นึกยังไงก็เดินไปนั่งที่บ้านของอาของตัวเอง ด้วยเหตุที่เป็นคนชอบพูดก็เล่าเรื่องผี ที่ได้พบ ได้เจอ ให้อาฟัง ที่แรกอาก็ยังไม่ค่อย เชื่อเท่าไร เค้าก็เลยลองทดสอบเราดู อาก็ถามว่า "เนี่ยที่ทางเดินเข้าบ้านเรามีอะไรบาง" เราก็ตอบว่า "ที่เดินตรงเนี่ยหนูเห็นวิญญาณผู้หญิงใส่ชุดขาว ผมยาวมาก หน้าเละเฟะ " ปรากฏว่าอาถึงกับอึ่ง สุดท้ายอาก็ยอมเชื่อ จะไม่ให้ได้ไง หล่ะก็อาก้โดนผีที่อยู่ตรงนั้นหลอกมาเหมือนกัน สรุปง่ายๆ ก็คืออาฉันก็มีสัมผัสเหมือนฉันนี่แหล่ะ บอกตามตรงน่ะวันนั้นดีใจมากเลยหล่ะ ในที่สุดก็มีคนเชื่อฉันสักที่ แถมน่ายังแน่ะนำให้ อีกด้วยว่าผีที่เราเห็นเนี่ยต้องการณ์อะไร
เรื่องมันยังไม่จบน่ะค่ะ ยังมีให้ติดตามต่ิอ ขอโทษด้วยน่ะค่ะ
สวัสดี เพื่อนๆ หรือว่าท่านผู้อ่านทุกท่าน น่ะค่ะ
ก่อนอื่่น ก็ขอแนะนำตัวหน่อยละกัน และก็ขอแทนตัวเองว่า "เรา" ด้วย เราชื่อเล่นว่าแจม ตอนนี้ก็อายุ 17 ขวบ แล้วเราเป็นคนที่มีสัมผัสที่ 6 ซึ่งนั้นก็หมายถึงการมองเห็นสิ่งที่ใครหลายคนมีความเชื่อกันว่า มันคือ "ผีหรือวิญญาณ" นั้นเอง ฉันเริ่มรู้ว่ามองเห็นสิ่งเหล่านี้ได้ตั้งแต่อายุประมาร 7 ขวบ สาเหตุที่รู้ก็เพราะได้ยินการเล่าจากประสบการณ์ของพวกพี่ ป้า น้า อา ทั้งหลายที่กลัวผีเค้าเล่าให้ฟัง จากที่พวกผู้ใหญ่ว่ากันว่าผีหน้าตาเน่าเละ บางก็ว่าใส่ชุดสีขาวบางก็ว่าใส่สีดำ ว่ากันว่าผีพวกนี้มาขอส่วนบุญหรือไม่ก็กำลังหาตัวตายตัวแทน ตั้งแต่นั้นมาเราก็กลัวผีมาก ที่แรกก็ยังไม่เข้าใจนักหรอกว่าผีคืออะไร แต่ก็กลัว บอกพ่อกับแม่เค้าก็ไม่เชื่อเราหาว่าเราคิดไปเองอยางโน้นอย่างนี้ ตั้งแต่นั้นมาถึงจะเห็นแต่ก็ไม่สนใจคิดว่าตัวเองต้องคิดไปเองแน่ๆเลย จนมาถึงตอนอายุ 13 ขวบ ก็ชักจะเห็นพวกผีเยาะขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ก็เลยนึกว่า "ฉันต้องเป็นโรคประสาทหลอนแน่ๆ ทำไม่มองอะไรเป็นเงาของคนไปหมด" อยู่มาวันหนึ่ง ไม่รู้นึกยังไงก็เดินไปนั่งที่บ้านของอาของตัวเอง ด้วยเหตุที่เป็นคนชอบพูดก็เล่าเรื่องผี ที่ได้พบ ได้เจอ ให้อาฟัง ที่แรกอาก็ยังไม่ค่อย เชื่อเท่าไร เค้าก็เลยลองทดสอบเราดู อาก็ถามว่า "เนี่ยที่ทางเดินเข้าบ้านเรามีอะไรบาง" เราก็ตอบว่า "ที่เดินตรงเนี่ยหนูเห็นวิญญาณผู้หญิงใส่ชุดขาว ผมยาวมาก หน้าเละเฟะ " ปรากฏว่าอาถึงกับอึ่ง สุดท้ายอาก็ยอมเชื่อ จะไม่ให้ได้ไง หล่ะก็อาก้โดนผีที่อยู่ตรงนั้นหลอกมาเหมือนกัน สรุปง่ายๆ ก็คืออาฉันก็มีสัมผัสเหมือนฉันนี่แหล่ะ บอกตามตรงน่ะวันนั้นดีใจมากเลยหล่ะ ในที่สุดก็มีคนเชื่อฉันสักที่ แถมน่ายังแน่ะนำให้ อีกด้วยว่าผีที่เราเห็นเนี่ยต้องการณ์อะไร
เรื่องมันยังไม่จบน่ะค่ะ ยังมีให้ติดตามต่ิอ ขอโทษด้วยน่ะค่ะ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)